วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

[รีวิวเที่ยว] ตอน 1 : เที่ยว Lofoten แม้พระอาทิตย์ไม่ขึ้น แต่สนุกไม่ลืม | เที่ยวนอร์เวย์ | เที่ยวยุโรป



หลังจากกลับมาจากทริปยุโรปล่าสุดช่วงปลายเดือนธันวาคม 2561 ก็คิดว่าประสบการณ์ที่ไปเที่ยวเกาะโลโฟเทน Lofoten ที่นอร์เวย์น่าจะเอามาเขียนเพื่อเป็นความรู้ให้ใครหลายๆ คนที่กำลังสนใจจะไปเที่ยวที่นี่พอสมควร และคนไทยก็ไปเที่ยวเยอะมาก

ทริปยุโรปของเราเริ่มจากมาลงที่นอร์เวย์(ออสโล-เบอร์เกน-โลโฟเทน) ตามด้วยสวีเดน(สต๊อกโอม) ฟินแลนด์(เฮลซิงกิ) เอสโตเนีย(ทาลลินน์)และตุรกี(อีสตันบูล) แต่เราขอเล่าที่เที่ยวในโลโฟเทนเน้นไปเลย เพราะที่อื่นเป็นเมืองหลวงและเมืองหลัก เที่ยวง่ายชิลๆ อยู่แล้ว

หลังจากที่เที่ยวในเมืองเบอร์เกนแล้ว เราก็นั่งเครื่องบินไปยังโลโฟเทนเลย เป็นวิธีที่แพงที่สุด แต่สบายที่สุด ถ้าจะให้ประหยัดก็นั่งรถไฟเก็บระยะทางไปเรื่อยๆ แวะนอนเมืองอื่นสัก 1-2 คืน แล้วนั่งเฟอรี่ข้ามไปโลโฟเทน ถ้านั่งรถไฟยาวน่าจะเซ็งมากๆ อันนี้แล้วแต่คนนะ เราเน้นประหยัดเวลาและสบายๆ😂

วิวบนเครื่องบินตอน 11 โมงเช้า

เครื่องบินใบพัดของสารการบิน Wideroe ตอนเที่ยง
ส่วนการเดินทางด้วยเครื่องบินเรานั่งสายการบิน Wideroe ไปลง Bodø (โบโด) และเปลี่ยนเครื่องไปนั่งเครื่องบินแบบใบพัด(ขนาดเล็ก) ที่นั่งแค่ 25 คนเอง (อย่างกับรถตู้นั่งไฟพัทยา) เพื่อไปลงที่สนามบิน Leknes (เล็กเนส) 1 ใน 2 สนามบินในโลโฟเทน อีกสนามบินชื่อ Svolvær (สโลแวร์)

วิวเมือง Reine
ที่เราเลือกมาลง Leknes เพราะว่าเราจะขับรถไปเที่ยวสุดเกาะฝั่งตะวันตก เป็นหมู่บ้าน Å (โอ) ฝั่งนั้นมีวิวที่ตากล้องเก่งๆ จะไปตามหารูปสวยๆ ถ่ายกัน อย่างวิวภูเขาใน Reine ที่คนชอบเที่ยวต้องเคยเห็นบ่อยๆ แล้วร้องอ๋อออออ😆

วันแรกหิมะยังไม่ตก แต่ฝนตกไปนิดๆ เราลงที่สนามบิน Leknes สนามบินเล็กมาก เดินลงจากเครื่องบินมา 50 เมตรก็ถึงสนามบิน ข้างในว่างๆ เงียบมาก บางทีเล็กกว่าบ้านบางคนอีก ฮ่าๆ เดินไปนิดนึงมีเค้าท์เตอร์รับรถอยู่ประมาณ 3 บริษัท เราเช่า Europecar เพราะราคาถูกสุดสำหรับรับรถที่สนามบิน 


[[ เกาะโลโฟเทนแนะนำว่าต้องเดินทางด้วยรถยนต์เท่านั้น เพราะอากาศแปรปรวนมากโดยเฉพาะฤดูหนาว ไม่มีรถบัสด้วย และในฤดูที่มีรถบัสวิ่งตารางรถก็ไม่เยอะมากเท่าไหร่ ]]


เจอพนักงานแล้วยื่นใบจองให้ดู เขาก็อธิบายการใช้รถ Hybrid แล้วก็ชี้ว่ารถจอดอยู่ฝั่งโน้น ถ้าจะมาส่งรถ ให้ทิ้งกุญแจรถไว้ในตู้ข้างๆ ผนังได้เลย พูดจบปุ๊บ พนักงานปิดเค้าท์เตอร์แล้วก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว😅


ไม้กันถนนสีแดงเตือนว่าเป็นขอบถนนและเป็นที่บอกทางตอนกลางคืน
ถนนในโลโฟเทนมีแค่ 2 เลนคือสวนกันไปมา ส่วนข้างทางเป็นไหล่ทาง อย่าเผลอจอดแวะ มันจะขึ้นมายากและรถจะมีรอยเอา เวลาขับเขาจะมีไม้สีแดงมีสะท้อนแสงไฟได้ตอนกลางคืนปักข้างขอบถนนทั้ง 2 ข้างเพื่อให้คนขับรู้ว่าอย่าขับตกไหล่ทางเพราะตอนกลางคืนมืดมากไม่มีเสาไฟ มีแต่ไฟรถเท่านั้น และหากมีรถคันใหญ่ขับผ่านมาหรือทางเป็นเลนเดียว ข้างทางบางจุดจะมีที่ว่างสำหรับจอดพักรถแล้วให้รถที่ไม่มีจุดพักรถได้ไปก่อน 


ที่พัก 3 คืนของเรา สงบและสบายมาก
สำหรับที่นอน เราพักใกล้ Haukland Beach ที่สุดห่างประมาณ 8 กิโล ซึ่งไม่ไกลจากสนามบิน Leknes ด้วยเป็นบ้านโมเดิร์นริมทะเล เจ้าของนิสัยดีมาก เงียบสงบสุดๆ ด้านหลังเป็นเขา Offersøykammen ปีนขึ้นเขาไปดูวิวได้ มีคนบอกว่าปีนไม่ยาก แต่ตอนเราไปหิมะตกก็ไม่น่าปีนเท่าไหร่😂 


แวะถ่ายรูประหว่างทาง
และแล้วก็ถึงเวลาเที่ยว แน่นอนว่าเป็น Haukland Beach เพราะใกล้ที่สุด โดยระหว่างทางสวยตลอดทั้งเส้น ประมาณว่าเห็นจุดพักรถตรงไหนก็จอดถ่ายรูปๆ รถไม่เยอะเลย มาทีละคัน 2 คัน แวะมาเรื่อยจนถึงชาดหาด ก็เจอฝรั่งกลุ่มใหญ่กำลังเดินเล่นริมหาด และอีกกลุ่มน้อยกำลังลงมาจากเขา แต่ตอนนั้นเวลาบ่ายกว่าๆ ฟ้าเริ่มมืดแล้ว 

[[ จากที่เราบอกไปว่าเรามาเที่ยวช่วงใกล้ปีใหม่ คือ 28-31 ธ.ค. ช่วงนั้นเรียกว่าปรากฏการณ์ Polar Night ที่เริ่มตั้งแต่ต้นธันวาถึงต้นมกรา จะไม่มีพระอาทิตย์ขึ้นเลย แต่มีแสงจากดวงอาทิตย์เห็นจางๆ เห็นฟ้าตอน 5 โมงเย็นบ้านเรา ตั้งแต่ 10.00-14.00 น. มักแปลกดีแต่ข้อเสียคือเที่ยวได้น้อยมากเพราะตอนมืดถนนไม่มีไฟเลย สำหรับคนในเมืองคงไม่ชินที่ขับบนถนนที่ไม่มีไฟข้างทางข้างหน้า ต้องขับช้าๆ ไปเรื่อยๆ ]]


Haukland Beach ช่วงบ่ายถึงบ่ายสอง

ฟ้ามืดปุ๊บ ก็หิวปั๊บ เราเลยไปที่ซุปเปอร์มาเก็ตที่ใกล้ที่สุด อยู่ในเมืองเล็กเนสนั่นแหละ มีของสด ของใช้ อาหารสำเร็จรูป เหมือนโลตัสบ้านเรา ขับรถกลับบ้านมาบ่าย 3 กว่าก็ทำมาม่าที่พกไปกิน มันฟินมาก ฮ่าๆ 😁

หลังจากกินเสร็จ เจ้าของบ้านพักก็เดินมาทักทาย เราบอกอยากเห็นแสงเหนือ เขาก็เปิดเว็บดูพยากรณ์แล้วบอกว่าวันนี้มีเยอะเลย ดูได้จากบนหัวได้เลย มันจะผ่านทั้งท้องฟ้า เราก็ดีใจ คุยเสร็จเตรียมกล้อง ขาตั้งกล้องให้พร้อม ถ่ายปุ๊บ มีแต่เมฆ😭 ถ่ายเป็นอีก มีติดแสงสีเขียวๆ ด้วย ดีใจใหญ่เลย แต่ส่วนใหญ่เป็นเมฆ ฮ่าๆ ท้องฟ้าปิดมาก ตอนที่ไป มีแต่เมฆกับเมฆ แล้วก็ไม่มีหิมะให้เห็นด้วย มีแต่ความมืดกับลมแรง


เมฆเยอะมาก

แสงเหนือแบบเบลอๆ😅


หลังจากทนความหนาวไม่ไหว ก็เอากล้องกลับเข้ามาในบ้าน กล้องเย็นเจี๊ยบ เลยต้องเอามาพักไว้ก่อน แล้วเราก็นั่งเล่นอาบน้ำนอนดูซีรีย์เกาหลีไปแป๊บนึง ก็พักผ่อนเก็บแรงเพราะวันถัดไปจะเป็นเที่ยวฝั่ง Å กับ Reine


*รูปทั้งหมดนี้ไม่ได้ปรับฟิลเตอร์อะไรเลย ฟ้าและอากาศเป็นแบบนี้จริงๆ*



อ่านเรื่องเล่า ดูอัลบัมเที่ยวที่
Instagram :  https://www.instagram.com/jeeffrie

Facebook :  https://www.facebook.com/paitiewnaigorpai


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อัพเดตเรื่องเล่าล่าสุด

[รีวิวเที่ยว] ตอน 3 (จบ) : หาด Unstad ในฤดูหนาว | เที่ยวนอร์เวย์ | เที่ยวยุโรป

ต่อจาก ตอน 2  ในวัดถัดมา ก็มีแผนที่จะไปหาด Unstad ที่อยู่ห่าง Leknes ประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร แล้วเราก็ไปที่เดียวเลย ไปที่เที่ยวอื่นไกลมาก...