วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

[แชร์เรื่องเที่ยว] ตอน 3 : เขาเนโบ ทะเลสาบเดดซี ที่น่าพิศวง | เที่ยวจอร์แดน | เที่ยวตะวันออกกลาง

[เที่ยววันที่ 2]
จากตอน 2 ที่เราไปเที่ยวในเมืองมาดาบากันตอนเช้าเรียบร้อย ก็เตรียมกระเป๋าขึ้นรถเพื่อไปยังเขาเนโบ (Mount Nebo) กันต่อเลย...

ระหว่างทาง ทั้งสองข้างทางเป็นทะเลทรายหมดเลย ประมาณว่าไร้สิ่งมีชีวิตรอบข้าง วิวแปลกตามากสำหรับประเทศไทยที่มีป่าเขาสมบูรณ์ และเส้นทางเขาตอนแรกคิดว่าไม่ชันมาก แต่ก็ชันพอสมควรและทางก็คดเคี้ยวอยู่ แต่ค่อยๆ ขับไปค่ะ

และเราก็ถึงเขาเนโบ ลงไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง...



วิวทะเลทรายแบบ 360 องศาเลย



จุดไฮไลท์ คนเยอะมาก

ภายในโบสถ์
เขาเนโบนี้มีเชื่อว่าเป็นที่ฝังศพของโมเสส เมื่อยืนอยู่บนยอดเขาจะเห็นเป็นภาพที่โมเสสรวมหุบเขา แม่น้ำจอร์แดน เดดซี Jericho และเยรูซาเลมเข้าด้วยกันเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ และโบสถ์ที่เขาเนโบนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อ 400 ปีที่แล้วเพื่อเป็นจุดชี้การตายของโมเสส และยังคงเป็นสถานที่แสวงบุญของชาวคริสต์ อ่านข้อมูลแล้วสุดยอดเลย...👍

เดินถ่ายรูปอย่างเพลิดเพลินก็ได้เวลาไปทะเลสาบเดดซีกันต่อ


ระหว่างทางที่มุ่งหน้าไปเดดซี มีเรื่องช็อคมาก!! เจอม้าตายครึ่งตัวแบบเห็นซี่โครงสดและหัวยังเป็นเหมือนม้าหลับอะ ฮือออ สงสาร คือไม่มีใครเก็บเลยเหรอ? ดูแล้วจะตายมานานเพราะเหลืออยู่ครึ่งตัว เป็นภาพที่ตกใจมาก อันนี้เรื่องจริงนะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา ตามจริงแล้วกฏหมายของที่นี่มีแบบโทษหนักสุดสำหรับคนขับขี่คือ "ห้ามขับรถชนอูฐเด็ดขาด! ค่าปรับบาน" แต่คือชนม้าตายได้เหรอ อันนี้ไม่รู้จริงๆ 

ขับมาเรื่อยๆ เราก็ถึงโรงแรมของเรา คือ Crowne Plaza Jordan Dead Sea Resort & Spa วิวที่มองจากโรงแรมไปเดดซี สวยมากค่ะ แต่บอกก่อนว่าบริการโรงแรมนี่แย่มาก ไม่สะอาด เข้าห้องไปยังมีเศษทรายอยู่ในห้องอยู่เลย ไปกัน 3 คน ผ้าขนหนูให้ 1 ผืน อีก 2 ผืนต้องเรียกนาน 3-4 ชั่วโมง 4 รอบถึงจะได้ คือมีแม่บ้านไม่เพียงพอค่ะ เลยเป็นแบบนี้ ส่วนอาหารเช้าก็มีให้เลือกเยอะดี รสชาติใช้ได้ค่ะ

หลังจากรีวิวโรงแรมเราไปหาข้าวกลางวันกินดีกว่าค่ะ 



มีห้างเล็กๆ อยู่ใกล้โรงแรม เราเลยขับรถกันไปหาของกินค่ะ แล้วก็มีร้านอาหารไม่กี่ร้านกับซุปเปอร์มาเก็ตขายค่ะ และเราก็เลือกกินร้านนี้ที่อาหารหน้าตาเหมือนข้าวหมกไก่ ดูในรูปอาจดูจานไม่ใหญ่แค่ข้าวเยอะ แต่จริงๆ ใหญ่มากค่ะ กิน 3 คนไม่หมด ส่วนจานเล็กๆ นั้นเป็นเหมือนสลัด รสชาติแปลกๆ ให้ครีมเปรี้ยวมากินด้วยค่ะ สรุปกินไก่หมด เหลือข้าวกับสลัดเยอะอยู่ ให้เยอะมาก จานนี้ 500 บาทค่ะ อิ่ม!

อิ่มหนำเสร็จเตรียมตัวมาเล่นน้ำที่เดดซี ก่อนมาเล่นน้ำเลยลงไปดูที่หาดก่อนว่าเขาแต่งตัวกันยังไง เดี๋ยวจะแปลกกว่าชาวบ้าน 


เดดซีตอนกลางวัน
พอออกมาดูหาดอยู่แปบเดียวผิวแทบไหม้ค่ะ กลางวันร้อนมาก แต่ยังมีคนเล่นน้ำอยู่นะคะ มีทั้งฝรั่ง แขก จีน แตกตัวกันสบายๆ เซ็กซี่บางคน ผู้หญิงส่วนใหญ่จะวันพีชหรือชุดว่ายน้ำ(คนจีนกับฝรั่ง) ไม่ก็กางเกงเสื้อแขนยาว(คนมุสลิม) ส่วนผู้ชายก็กางเกงขาสั้น จบ!  ถ้าผู้หญิงแต่งเซ็กซี่นิดๆ แถวโรงแรมเขาก็ยังเฉยๆ ค่ะ แต่ถ้าไปตามท้องถนนที่อื่นละก็ โดนมองเลียวหลังเลยหล่ะค่ะ

หลังจากพบว่ากลางวันร้อนมากไม่ควรมาเล่น เราก็รอกันค่ะ ประมาณ 5 โมงเย็นถึงจะเดินลงไป อากาศยังคงร้อนอยู่แต่แดดเริ่มลงแล้วค่ะ...

แต่ก่อนที่เราจะไปลอยก็พอกโคลนกันก่อนเพื่อผิวสวย พอกให้ทั่วตัว หน้าด้วยก็ดี😁 พอกสักพักจนแห้งก็พร้อมลงลอยน้ำ ซึ่งที่ลอยได้ดีเพราะเป็นน้ำเค็มค่ะ เค็มมาก เราลงไปเล่นแล้วทรงตัวไม่ดีน้ำกระเด็นเข้าปากนิดๆ เค็มมากกกก😂 ตอนลงไปเล่นก็ลอยสนุกดีนะคะ แต่พอจะลุกขึ้นเนี่ยยากหน่อย เพราะตัวเราจะลอยอยู่ตลอดเวลา การจะลุกมาเดินเลยต้องค่อยๆ ประคองตัวให้มั่นและเดินช้าๆ ขึ้นหาดค่ะ สมชื่อที่ว่าเดดซีไม่มีวันจม แต่อาจจะเป็นไตก่อนจมน้ำค่ะ 555


เดดซีตอนพระอาทิตย์ตก

หลังจากเล่นน้ำเสร็จ ล้างน้ำทั้งตัว ผิวใสเลย แสบนิดๆ ในบริเวณที่เป็นแผลเพราะน้ำเกลือกัด แต่สนุกและสบายตัวมาก เราเดินกลับห้องและอาบน้ำพักผ่อนตามอัธยาศัยค่ะ😄

เที่ยวเดดซีเสร็จ เราไปไหนกัน ติดตามการเที่ยวในจอร์แดนวันถัดไปในตอน 4 นะคะ




[----- แชร์เรื่องเที่ยวจอร์แดน 7 วัน -----]


อ่านเรื่องเล่า ดูอัลบัมเที่ยวที่
Instagram :  https://www.instagram.com/jeeffrie

Facebook :  https://www.facebook.com/paitiewnaigorpai






วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

[แชร์เรื่องเที่ยว] ตอน 2 : เที่ยวง่ายๆ ในมาดาบา | เที่ยวจอร์แดน | เที่ยวตะวันออกกลาง

หลังจากที่มาถึงจอร์แดนและเข้าโรงแรมพักผ่อนนอน(ตามได้ในตอน 1

[เที่ยววันที่ 2] วันรุ่นขึ้นเราตื่นมาเปิดม่านไปนึกว่ารบอยู่ในกลุ่มกลางทะเลทราย ถนนเงียบมาก ทรายกระจายเต็มถนน ไร้ผู้คน บ้านเมืองเหมือนอิฐๆ เหมือนอยู่ในหนังที่เขาดักซุ่มยิงผู้ก่อการร้ายอะ รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ แต่ไม่ได้กลัวนะ ชอบบบ😆 มันดูตื่นเต้นดี

ด้วยความอยากเที่ยวเต็มที่ แต่ก่อนจะเที่ยวก็ต้องทานข้าวเช้ากันก่อน เดินเข้าไปห้องอาหารของโรงแรมที่อยู่ชั้น 8 เดินออกมาก็เริ่มตื่นเต้น เพราะวิวแปลกตามาก บ้านเมืองออกทรายๆ บรรยายไม่ถูก ไปดูเอา...




หลังจากเพลิดเพลินกับการถ่ายรูป ก็ถึงเวลากินกันแล้ว โรงแรมเป็นโรงแรมไม่ใหญ่อะไร ของกินก็เช่นกันมีไม่มาก และกินไม่เป็น ฮ่าๆ อะไรหว่าดูครีมๆ ชีสๆ ลองตักมาใส่จานและเราก็งงๆ ว่ามันกินกับอะไร เลยหันไปถามคุณพี่เจ้าของโรงแรมว่า กินยังไงคะ?? คุณพี่เขาก็พูดชื่ออาหารอย่างรัวและเราก็จำชื่อไม่ได้เลย ออกเสียงยากมาก จากนั้นเขาก็หยิบขวดน้ำมันมะกอกมาแล้วเทลงครีมๆ ที่เราตักมาจนท่วมมมม เห็นแล้วแบบจะเลี่ยนมั้ยเนี่ย!! แล้วเขาบอกลองกินดูกับแผ่นพิต้า ลองปุ๊บ เฮ้ยยย อร่อยมาก รสชาติจะมันๆ เค็มนิดๆ แบบครีมนมผสมน้ำมันมะกอก เรียกว่า Hummus และก็กินหมด แล้วไปตักมากินอีกรอบ 5555  


Hummus
มีแผ่นถั่วๆ อีกแผ่น ตอนแรกนึกว่าของคาว เปล่าเลย หวานจี๊ด ขนมจะใส่ถั่วพิตาชิโอเป็นแผ่นแข็งๆ หน่อย แต่อุดมไปด้วยน้ำตาล😆 เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมา

กินเสร็จก็พร้อมออกเดินทาง 2 ก้าวจากโรงแรมก็ถึงและ😄 ที่เที่ยวแรกอยู่หลังโรงแรมของเราชื่อว่า St. John the Baptist Roman Catholic Church โบสถ์ที่ไม่ใหญ่มาก แต่น่ารักดี ให้รูปเล่าแทนละกัน...



ที่โบสถ์มีทาวเวอร์ให้เดินขึ้นไปดูวิวด้วย เสียคนละ 1 JOD ทางขึ้นหอคอยก็ส่วนตัวสุดๆ เข้าไปในบ้านพักของบาทหลวง(คิดว่านะ) เห็นห้องนอน ห้องรับแขกด้วย เอาแหล่ว เรามากวนเขามั้ยเนี่ย เพราะตอนแรกไม่รู้ว่าทางเข้าหอคอยอยู่ไหน เขาแค่ชี้ๆ แล้วเราก็ไม่กล้าขึ้นสักทีจนต้องให้คนแถวนั้นเดินพาไป โดยก่อนขึ้นไปดูวิวเขาก็ให้ดูเชือกสั่นระฆังก่อนขึ้นคือแบบเสียงดังมาก ป่าวประกาศให้ทั้งเมืองรู้ได้เลย ฮ่าๆ 


วิวเมืองมาดาบา วิวเดียวกันกับบนโรงแรมเลย😆

หลังจากลงมาจากหอคอยพี่คนดูแลก็พามาส่งเราออกตรงนี้

แล้วเราก็เดินไปในโบสถ์อีกรอบไปดูประตูที่เปิดแง้มๆ เอาไว้อีกฝั่ง ปรากฏเป็นโรงเรียนอนุบาล น้องๆ กำลังออกกำลังกายตามพี่ๆ เลย มีเปิดเพลง Waka waka เพลงบอลโลก(น่าจะเพลงนี้) แล้วพากันเต้นใหญ่เลย น้องมองมาคงคิดว่า พวกนี้มาทำอะไร ฮ่าๆ เรายืนดูอยู่พักนึก คุณครูก็มายืนดูด้วย แล้วมีท่าทางที่ภูมิใจว่าเด็กๆ ที่น่ารักนี้เป็นลูกศิษย์ผมนะ น่ารักมาก💗

พอดูน้องๆ เสร็จ ก็ถึงเวลาที่ได้ไปอีกสถานที่สำคัญของเมืองนี้ ซึ่งก็คือโบสถ์ St George's Greek Orthodox แปลกที่ประเทศจอร์แดนนับถืออิสลาม แต่กลับเป็นสถานที่ต้นกำเนิดของศาสนาคริสต์ โบสถ์เซ็นจอร์ช กรีก ออทอดอกซ์ นี้มีชื่อเสียงเรื่องภาพโมเสสที่แสดงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ค่ะ ขลังๆ ดี ค่าเข้า 1 ดีนาร์(46 บาท)


ถ่ายหน้าโบสถ์มาไม่เต็มเฟรม😂

ภายในโบสถ์ที่แสดงแผนที่โมเสส

ร้านขายของที่ระลึก

เมืองมาดาบา

เดินเล่น ถ่ายรูปเสร็จก็ออกเดินทางกันด้วยรถกันต่อเลย...เราจะไปต่อกันที่ Mount Nebo อยู่ไกลออกไปไม่เกิน 10 กิโลจากเมืองมาดาบา ติดตามตอนต่อไปกันนะคะ😄



[----- แชร์เรื่องเที่ยวจอร์แดน 7 วัน -----]


อ่านเรื่องเล่า ดูอัลบัมเที่ยวที่
Instagram :  https://www.instagram.com/jeeffrie

Facebook :  https://www.facebook.com/paitiewnaigorpai

วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

[แชร์เรื่องเที่ยว] ตอน 1 : เมือง Madaba วันแรกทำไมไม่เป็นอย่างที่คิด?! | เที่ยวจอร์แดน | เที่ยวตะวันออกกลาง

สวัสดีค่ะ ไม่ได้เข้ามาอัพน๊านนาน เป็นปีแหน่ะ ฮ่าๆ ก่อนหน้าที่ไปจอร์แดน เรากลับไปเที่ยวญี่ปุ่นเกือบทั้งประเทศเลย(เว่อร์ไปมั้ย >.<) แล้วก็ฮ่องกงไปไหว้พระค่ะ

แต่เราจะมาเล่าประสบการณ์ต่างๆ ของการไปเยี่ยมเยียนจอร์แดนกันค่ะ เพราะสนุกมากๆ จนเราขอให้เป็นหนึ่งในประเทศที่ต้องไปให้ได้สักครั้ง!!

เราเห็นภาพประเทศจอร์แดนครั้งแรกคือ เพตรา ค่ะ นครที่ภูเขาถูกแกะสลักเต็มไปหมด ดูสวยงามอลังการ แต่หลังจากค้นคว้าไปเรื่อยๆ เกี่ยวกับประเทศนี้ มีหลายสถานที่ที่โดดเด่นและต้องไปให้ได้สักครั้งค่ะ

หลังจากพูดชมจอร์แดนมาขนาดนี้แล้ว แล้วทำไมหัวข้อถึงบอกว่า "เที่ยวจอร์แดนวันแรกทำไมไม่เป็นอย่างที่คิด?! " ล่ะ? ครั้งนี้เราไปจอร์แดน 7 วันด้วยกัน มาอ่านกันเลยค่ะ...

รูทของเราที่วางเอาไว้มีตามนี้
วันที่ 1 ถึงเย็น พักเมืองมาดาบา
วันที่ 2 เที่ยวในมาดาบา-เขาเนโบ-เดตซี
วันที่ 3 เที่ยวปราสาทคารัค-อคาบา
วันที่ 4 เที่ยวอคาบาเช้า-วาดิรัม
วันที่ 5 เที่ยวเพตรา
วันที่ 6 เที่ยวอัมมาน
วันที่ 7 เที่ยวเจราช




[เที่ยววันที่ 1] วันที่ 20 กันยายน 2561 บินเช้า ถึง ทุ่มกว่า
เราไปกัน 3 คนมีเรา คุณแม่และพี่ เราได้นั่งเครื่องบินของสายการบินคูเวต แอร์ไลน์ ตอนเปลี่ยนเครื่องที่คูเวตต้องเดินออกมาจากเครื่องบินขึ้นรถบัสเพื่อไปเทอร์มินอลบอกเลยว่า ร้อนละลาย 40 กว่าองศาเอ๊ง (ตอนนั้นตั๋วที่ซื้อ 19xxx ถือว่าถูกสุดในช่วงที่จะจองละค่ะ เพราะถ้าบินตรงก็ปาไป 3xxxx แต่ที่ไหนได้หลังจากจองไปเดือนกว่า โปรบินตรงกลายเป็น 13xxx-14xxx เสียใจไม่หายค่ะ)

พอลงจากเครื่องผ่าน ตม.ก็ไม่ยากอะไร เราได้ซื้อตั๋ว Jordan Pass ผ่านเว็บไซต์ https://www.jordanpass.jo/ ซึ่งรวมค่าวีซ่าและสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ต่างๆ ทั่วประเทศจอร์แดนไว้เรียบร้อย ไปถึงตม.ก็ยื่น Pass ที่ปริ๊นมาจากบ้านให้ไปพร้อมกับพาสปอร์ตของเราแค่นั้น พี่ตม.มีถามแค่มาจากไหน บินตรงมาจากกรุงเทพเลยหรือเปล่า? ตอบเสร็จรอประมาณ 5 นาที ก็ผ่านค่ะ...

ผ่านปุ๊บไปหยิบกระเป๋าเสร็จปุ๊บ ก็ไปแลกเงินจาก USD เป็น JOD (ดีนาร์) สกุลเงินของจอร์แดน(ในไทยไม่มีให้ซื้อค่ะ) แลกมานิดหน่อยเพื่อไปซื้อซิมของค่าย Uminah เน็ตดี ยกเว้นเขาสูงๆ ไม่มีเลย และราคาไม่แพงค่ะ ในตอนที่กำลังซื้อซิม พนักงานถามว่ามาจากที่ไหน เราบอก ไทยแลนด์ เขาก็ตอบว่า Welcome to Jordan! เราก็ยิ้มๆ ดูเขาเฟรนลี่ดีนะ

จากนั้นก็ไปรับรถเช่าของ Budget รถโตโยต้า รุ่น Collora ค่ะพนักงานก็ถามอีก มาจากไหน มาจอร์แดนครั้งแรกหรอ ตอบไปว่าใช่ เขาก็ Welcome to Jordan! อีก เราก็ขำว่านี่โดนตั้งโปรแกรมกันมาหรือเปล่า...ฮ่าๆ อีกอย่างสำเนียงคนที่นี่รัวๆๆ มาก ทั้งสำเนียงอาหรับและพูดเร็วอีก ฟังไม่ทัน แต่ก็โอเค😅

จากที่อ่านรีวิวตามเว็บของไทยเกี่ยวกับจอร์แดน ซึ่งมีไม่มาก เขาบอกกันว่า คนที่นี่เฟรนลี่ อันนี้จริง! แม้หน้าจะคมๆ เข้มๆ แบบฝรั่งผสมแขก แต่เจอหน้านักท่องเที่ยวแบบเอเชียอย่างเราๆ เขาก็ยิ้มไม่หุบ ยิ่งขับรถเช่าแล้วกระจกไม่มีฟิล์มกันแดดเห็นหน้าจังๆ เขาก็หันมามองเราๆ กันอย่างกับ "นี่ตัวอะไร๊" แล้วก็ยิ้ม เราเห็นเขายิ้มเราก็ยิ้มค่ะ น่ารักดี บางคนนี่เห็นหน้าเราตอนนั่งอยู่ในรถ เขาหันไปคุยกับเพื่อนยิ้มๆ แล้วทำท่าจะยกมือไหว้นี่งงไปเลย คือแบบเหมือนรู้ว่าไหว้เป็นวิธีทักทายชาติเรา 555

กลับมาที่รถเช่าเราต่อ...วันแรกเราเข้าเมือง Madaba (มาดาบา) กันค่ะ เป็นเมืองไม่ใหญ่ไม่ไกลจากสนามบิน Queen Alia ที่เราลงมาค่ะ ขับกันไปงงทิศทางไป เพราะจอร์แดนขับเลนชิดขวา กว่าจะถือโรงแรมก็ลุ้นพอควรเลยค่ะ แต่ระหว่างทางที่ขับกันอย่างงงๆ คนขับรถด้านหลังเขาบีบเตรใส่ บีบเสร็จทำท่าจะหันมาบ่น "ขับช้า! บลาๆๆ" เห็นหน้าเอเชียแบบนี้ยิ้มมมมม😝 ยิ้มอีกแล้ววว ฮ่าๆ

ตอนแรกคิดว่าขับช้า เขาเลยบีบเตร ก็คงปกติ แต่เปล่าเลย...จะทักเพื่อนก็บีบแตร จะไล่คนเดินก็บีบ ขับช้าก็บีบ ประมาณว่าแตรที่นี่คือเอาไว้ส่งสัญญาณที่รูปแบบ😂

พอถึงโรงแรมจะหาที่จอดรถ เอ๊ะ! ที่จอดอยู่ไหน นี่ชั้นอยู่ไหน??? ทั้งมืด บรรยากาศข้างทางเริ่มสกปรก มาถูกที่ปะเนี่ย...! จะจอดรถข้างทางก็น่ากลัว ซอยทางขวาก็เป็นเนินลง ทางข้างหน้าก็เขา จะกลับรถก็ทำไม่ได้ เพราะทางวันเวย์ ตายแล่วว เลยเดินไปที่โรงแรมแล้วถามเขาว่า "ที่จอดรถโรงแรมอยู่ไหนคะ?" เขาบอกข้างหลังตรงนี้ไง เราก็ อ่าว เลยมาแล้ว จะย้อนกลับก็ไม่ได้ มีรถเข้ามาตลอด มืดด้วย เขาเลยบอกว่า ข้างทางก็จอดได้...  ที่นี่ข้างทางจอดได้หมดจริงๆ ฮ่าๆ

จอดรถเสร็จเอากระเป๋าเข้าโรงแรมก็ออกมาหาอะไรกิน ตอนแรกที่อ่านๆ มาเขาบอกจอร์แดนสะอาด อันนี้เราว่าแล้วแต่สถานที่ 5555 เพราะรอบๆ นั้นที่เราเดินเล่นหาของกิน สกปรกมากกกก แบบขยะกระจายเต็มพื้น กลิ่นโชยมาเรื่อยๆ ถุงขยะแบบลอยอยู่บนฟ้า และจะมีเยอะตามภูเขาติดอยู่เพียบเลย ใครที่เน้นสะอาดอาจจะไม่โอเค แต่เราไม่เป็นไร มาเที่ยวเราไม่คิดมาก(แต่พอไปจนครบทุกเมืองพบว่ามาดาบาวันแรกที่เราไปนั้นสกปรกที่สุด คืนแรกก็แจ๊กพ็อตจ้า😜)

รอบๆ แถวนั้นมี Western Union ให้แลกเงินได้ มีโบสถ์ มีร้านขายของชำเยอะมาก แต่เราซื้อแค่น้ำ 1 ขวดก็กลับไปนอนและเพราะอิ่มจากบนเครื่องแล้ว ส่วนรูปเมืองนี้ในวันแรกมีไม่เยอะเพราะมืด ไม่มีอะไรจะถ่าย วันที่ 2 สิ เพียบ!!
ติดตามอ่านได้นะคะ💗


ถ่ายรูปเมืองมาดาบากับแลนด์มาร์ค

[----- แชร์เรื่องเที่ยวจอร์แดน 7 วัน -----]

อ่านเรื่องเล่า ดูอัลบัมเที่ยวที่
Instagram :  https://www.instagram.com/jeeffrie

Facebook :  https://www.facebook.com/paitiewnaigorpai

อัพเดตเรื่องเล่าล่าสุด

[รีวิวเที่ยว] ตอน 3 (จบ) : หาด Unstad ในฤดูหนาว | เที่ยวนอร์เวย์ | เที่ยวยุโรป

ต่อจาก ตอน 2  ในวัดถัดมา ก็มีแผนที่จะไปหาด Unstad ที่อยู่ห่าง Leknes ประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร แล้วเราก็ไปที่เดียวเลย ไปที่เที่ยวอื่นไกลมาก...