วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2561

[แชร์เรื่องเที่ยว] ตอน 4 : เที่ยว Karak แล้ว Aqaba แต่ประสบการณ์ไม่ธรรมดา | เที่ยวจอร์แดน | เที่ยวตะวันออกกลาง

ตอน 3 เราไปเที่ยวในเมืองมาดาบา เขาเนโบ และแช่น้ำที่เดดซีกันเสร็จ วันรุ่งขึ้นเราก็เตรียมพร้อมขับรถกันยาวๆ มุ่งสู่ใต้สุดของจอร์แดนและเป็นทางออกทะเลทางเดียวซึ่งก็คือเมืองอคาบา (Aqaba) ค่ะ [เที่ยววันที่ 3]

หลังจากทานข้าวเช้าที่โรงแรมจนอิ่มเราก็เตรียมลาเดดซีและมุ่งหน้าไปเมืองคารัค(Karak) ที่เป็นที่ตั้งของปราสาทคารัคค่ะ ว่าจะแวะเที่ยวที่นั่นแล้วก็นั่งรถยาวถึงอคาบาค่ะ ระยะทางรวมประมาณ 300 กิโลค่ะ

ระหว่างที่ขับรถออกมา ทางเป็นวิวทะเลสาบเดดซีสวยงามมากเลย ดูขาวๆ แดดจ้าๆ

วิวทะเลสาบเดดซี



แต่พอขับไปสักพัก เราก็ขับรถข้ามสะพาน Mujib แล้วมองไปทางซ้ายก็ตาสว่างเลยค่ะ เราผ่านสถานที่หนึ่งที่น่าแวะเวียน(หากมีเวลา) นั่นคือ เขตสงวนธรรมชาติวิดิมูจิบ (Mujib Nature Reserve) วิวเป็นหินสีส้มสูงใหญ่และมีลำธารตัดผ่านตรงกลาง

เราก็ไม่รีรอที่จะกลับรถและเข้าไปแวะชมค่ะ ภายในมีกิจกรรมที่เข้าไปลุยน้ำและเดินสำรวจโดยต้องเข้าไปกับไกด์ใช้เวลา 2 ชั่วโมง แต่เราต้องเดินทางอีกไกล เลยถามไกด์ที่มาเสนอโปรแกรมเที่ยวว่าขอเดินรอๆ ได้ไหม เขาก็ชี้ว่าไปทางนั้นได้เลย เดินออกไปก็ตื่นตามากค่ะ จะภูเขาก็ไม่เหมือน จะเป็นหินมันก็ใหญ่มาก ไม่รู้ว่ากลายมาเป็นลักษณะนี้ได้ยังไง ก็เลยได้แต่ยกกล้องมาถ่ายค่ะ😁



Wadi Mujib

ชมวิวเสร็จก็เดินทางกันต่อเลย...
ขับไปอีกสักพักก็ไม่ได้เห็นวิวทะเลสาบเดดซีแล้ว และวิวกลายเป็นหินกับทรายล้วนๆ ใครที่จะมาเที่ยวจอร์แดนระวังเรื่องถนนและเขาด้วยนะคะ มันชันใช้ได้เลยหล่ะ และทางก็เป็นหลุมเป็นบ่อเยอะ

ทางที่มุ่งสู่ปราสาท Karak

ขับมาชั่วโมงกว่าก็ถึงแล้ว ที่จอดรถก็จอดข้างทางตามสบายเลย ถ้าตรงไหนจอดไม่ได้เขาจะบอกเอง (อย่าไปจอดตรงที่มีคนกวักๆ นะ เสียตังค์แน่ๆ ไม่รู้เท่าไหร่ด้วย ตอนที่เราเที่ยวเสร็จจะออกรถไปอคาบา มีเด็กวัยรุ่นกวักมือรัวๆๆ แล้วเหมือนมันพูดกับเราแล้วงงๆ มันจับพวงมาลัยรถบอกจะจอดรถมั้ยๆ ไม่จ่ะ จะออกแล้ว น้องก็เลยปล่อยมือ) จอดเสร็จก็เดินไปทางเข้าปราสาท ใกล้กันมาก ควักมือถือที่มี QR Code ของ Jordan Pass ขึ้นมาให้สแกนแล้วก็เอาของเข้าเครื่องตรวจ พี่ตำรวจถามคนข้างหน้าเรา มาจากไหน? เยอรมัน หันมาถามเราต่อ ไทยแลนด์ค่ะ แล้วก็ เวลคัมมม😀

วิวรอบๆ ทางเข้าปราสาท

เดินเข้าไปก็ถ่ายรูปมุมนู้นทีมุมนี้ที สักพักมีคุณตาคนจอร์แดนใส่ชุดพื้นเมืองกวักมือเรียกบอกมาทางนี้ ด้วยความงงก็เดินตามๆ ไป และตาก็เริ่มเล่าเรื่องต่างๆ ว่าแต่ละห้องในปราสาทนั้นคืออะไร เราก็เดินไปทั้งห้องนอน ห้องครัว ห้องขัง ครบเลย สรุปปราสาทนี้สำหรับเป็นที่อาศัยทหาร ก็จะมีห้องต่างๆ มากมายที่เหล่าทหารมาอยู่




คุณตาพาทัวร์จนครบก็ถามว่าไปไหนต่อ เราก็บอกว่าจะไปอคาบา เขาก็ชี้ไปว่าให้ไปเส้น King Highway แล้วบอกว่าเดี๋ยวนี้อินเตอร์เน็ตก็คงบอกได้ดีว่าควรไปทางไหน กูเกิ้ลก็ช่วยพาไปดีค่ะ แต่สัญญาณอินเตอร์เน็ตเริ่มไม่ดี แถวนั้นค่อนข้างอับสัญญาณ😂

หลังจากคุยเสร็จก็ถึงเวลาลาคุณตา แต่ผู้ร่วมทางของเราก็บอกว่าเขาอุตส่าห์พาทัวร์ก็ต้องมีของให้สักหน่อย ก็คือเงินนั้นแหละ ก็เลยให้แกไป 10 JOD ประมาณ 460 บาท หันไปถามแกว่าโอเคมั้ย คือไม่รู้จริงๆ ว่าเขาจะรับไหมหรือให้น้อยไปไหม คุณตาเลยบอกว่า As you like ตามใจเลยก็ 10 JOD ละกันคะ ที่เราให้เงินไปเพราะรู้สึกว่าเขาช่วยแนะนำ เล่าเรื่องให้ฟังเยอะแยะ เลยอยากตอบแทน แต่เขายังไม่เคยพูดว่าอยากได้อะไร (ซึ่งมีหลายคนในจอร์แดนที่ทำแบบนี้) สิ่งที่ตอบแทนได้ก็เป็นเงิน และเขาก็รับ เราเลยสรุปว่าถ้าเขาเรียกเราตอนเดินเที่ยวอยู่หรือพยายามพรีเซนต์อะไร แปลว่าต้องมีเสียตังค์ ฮ่าๆ ถ้าใครไม่ชอบหรือไม่โอเคก็เดินหนีได้เลย เขาก็จะไปเรียกคนอื่นต่อ บางคนอาจรำคาญ แต่เราว่าเป็นวิธีที่ได้ลูกค้าแบบไม่โกง😁

หลังจากเดินซะทั่วก็ถึงเวลาขับรถไปอคาบากัน ตอนกำลังออกรถไปถนนใหญ่ รถติดไปไหนไม่ได้เพราะรถคันหน้าก็มา ทางก็เลนเดียวไม่ใหญ่ ต้องขับรถปีนฟุตบาทขึ้นไป แต่ระหว่างเล็งๆ ว่าจะขับสวนกันยังไง มีเด็กแถวนั้นเคาะกระจก แล้วยกนิ้วกลางใส่พี่เราที่ขับรถอยู่แล้วก็เดินไป ส่วนเพื่อนมันที่เข็นรถเข็นเห็นแล้วก็หัวเราะยิ้มๆ เลยรู้สึกเหมือนโดนเด็กแกล้ง เพราะเห็นเราเป็นต่างชาติ กวนจริงๆ😑

หลังจากขับรถไปเรื่อยๆ จากวิวเมืองกลายเป็นวิวทะเลทรายล้วนๆ เห็นพายุทะเลทรายหมุนๆๆ ขนาดเล็กๆ ตื่นเต้นดี


เส้นทางถึงจะเป็นไฮเวย์ แต่พื้นถนนหลุมบ่อเยอะมาก เพราะมีแต่รถสิบล้อกับกระบะวิ่งผ่าน เวลาขับขี่ระมัดระวังด้วยนะคะ แล้วคนที่นี่ขับรถเร็วมาก สิบล้อก็ไม่เว้น สำหรับการขับพวงมาลัยที่ตรงข้ามกับบ้านเราก็ควรขับช้าหน่อย กำหนดอยู่ที่ไม่เกิน 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง 

ขับไปสักพักขอแวะเติมน้ำมัน เพราะอ่านมาว่าปั๊มน้ำมันน้อย จริงๆ ก็ไม่น้อยขนาดนั้น แต่กันน้ำมันหมดกลางทางก็แวะเติมสักหน่อย เข้าปั๊มไปบอกเต็มถัง พนักงานก็เติมไป แต่สักพักเดินมาบอกว่า มีเครดิตมั้ย? หืมม เราจะจ่ายสด เขาตอบว่า ไม่รับ เครดิตเท่านั้น ก็งงๆ แล้วก็หยิบบัตรเครดิตให้ พนักงานบอกกับพี่ว่าให้พี่เติมน้ำมันเอง พี่บอกว่ามันเริ่มแปลกๆ พนักงานได้บัตรไปแล้วเดินเข้าไปที่ออฟฟิศแล้วพยายามจะรูดบัตร พี่ก็เดินไปดูเลยจะรูดเท่าไหร่ ยื้อไปมา พนักงานคนนั้นเลยหยิบเครื่องรูดมาหน้าตู้น้ำมันแล้วกดจำนวนเงินที่จะรูด เกินไปประมาณ 10 กว่าดีนาร์ 500 บาทนะเธอ ให้ฟรีได้ไง นี่ก็ขอด้านๆ เชียว พี่ชี้ไปที่ตู้น้ำมันบอก โนๆ มันราคาเท่านี้....แต่พนักงานคนนั้นก็ยังจะพยายามกดเกิน สรุปให้เขากดเกินไป 1 ดีนาร์กว่าๆ เพราะหน้าดูไม่เป็นมิตรเท่าที่ควร เลยให้ๆ ไป หลังจากรูดเสร็จ ยังบอกว่าไปซื้อของในมินิมาร์ทได้นะ แหม่...พอแล้ว! 😒 และก็รีบออกรถโดยไว


ระหว่างทางบ่นๆ กันเรื่องโดนโกงซึ่งๆ หน้า แล้วก็ต้องร้องโหอีกที เพราะวิวหลักล้านจริงๆ เราขับผ่านวาดิรัม 1 ในมรดกโลกที่ควรมาเยือนหากมาจอร์แดน แต่วันนี้เราจะไม่เข้าไปที่วาดิรัม วันพรุ่งนี้เราจะมานอนกัน แต่วันนี้ขอไปดูบรรยากาศทะเลที่อคาบาก่อน

เส้นทางไป Aqaba ที่ผ่าน Wadi Rum
ขับรถไปสักพักใกล้ถึงอคาบา มีด่านตรวจของตำรวจกวักมือเรียก ในใจก็เอาแล้ว...ขับเร็วไปเหรอ หรืออะไร เราก็ชะลอรถแล้วหยุดเปิดหน้าต่าง พี่ตำรวจถาม คุณมาจากไหน ตอบอย่างเร็ว ไทยแลนด์! แล้วก็จบด้วยคอนเซ็ปเดิม เวลคัม ทู จอร์แดน!! หัวเราะเลย ฮ่าๆ นี่ถูกตั้งโปรแกรมมาใช่ไหม?! แล้วก็ขับรถต่ออีกสักพักก็ถึงอคาบาสักที!! เย็นพอดี ไปเดินหาข้าวกินดีกว่า...

ตอนเดินหาข้าวกินแถว Ayla Circle อยู่นั้น เราเดินกันผ่านทะลุร้านอาหารที่เขาเอาโต๊ะมาวางอยู่ฟุตบาท และผู้จัดการร้านก็เดินมาเรียก กินมั้ย มีเซ็ตนี้เซ็ตนั้น ยืนดูเมนูแล้วยังอยากดูร้านอื่นก่อน พี่แกก็ดักเลย แล้วกลับมานะ ไม่กลับจะฆ่าเลย แล้วหัวเราะ หูยยย หยอกแรงเชียว ฮ่าๆ สรุปไปกินร้านอื่นจริงๆ ชื่อ Syrian Palace จานสเต็กอร่อยแต่อาหารช้า ราคาสูงพอควร แล้วไม่ผ่านร้านพี่แกเลย 😄 แถวนั้นเหมือนตลาด เดินๆ ไปมีของฝากราคาไม่แพงเพียบเลยทั้งผ้าคลุม โคลนเดดซี สมุนไพร เยอะแยะ แต่เราไม่ได้ซื้ออะไรมา เอาไว้ไปซื้อวันหลังละกัน...


[----- แชร์เรื่องเที่ยวจอร์แดน 7 วัน -----]




อ่านเรื่องเล่า ดูอัลบัมเที่ยวที่
Instagram :  https://www.instagram.com/jeeffrie

Facebook :  https://www.facebook.com/paitiewnaigorpai

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อัพเดตเรื่องเล่าล่าสุด

[รีวิวเที่ยว] ตอน 3 (จบ) : หาด Unstad ในฤดูหนาว | เที่ยวนอร์เวย์ | เที่ยวยุโรป

ต่อจาก ตอน 2  ในวัดถัดมา ก็มีแผนที่จะไปหาด Unstad ที่อยู่ห่าง Leknes ประมาณ 20 กว่ากิโลเมตร แล้วเราก็ไปที่เดียวเลย ไปที่เที่ยวอื่นไกลมาก...